กาลเวลาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ ผิวพรรณที่เคยเต่งตึง อ่อนเยาว์ ก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามวัย เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ทำให้หลายคนกังวลใจ และมองหาวิธียกกระชับหน้า เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ แต่ด้วยวิธีการยกกระชับหน้าที่มีมากมาย ทั้งหัตถการและศัลยกรรม ทำให้ตัดสินใจเลือกได้ยาก dr.mo clinic คลินิกเสริมความงามเชียงใหม่ พร้อมให้คำแนะนำ ไขข้อข้องใจ และช่วยคุณเลือกวิธีการยกกระชับหน้า ที่เหมาะสมกับปัญหา สภาพผิว และความต้องการของคุณ

ทำความเข้าใจ “ความร่วงโรยของใบหน้า”

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจ สาเหตุของความร่วงโรยของใบหน้า ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย เช่น

• อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้ง บาง เกิดริ้วรอย และหย่อนคล้อย
• แสงแดด: รังสี UV ในแสงแดด ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และความหย่อนคล้อย
• มลภาวะ: ฝุ่น ควัน สารพิษต่างๆ ทำร้ายผิว ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น หมองคล้ำ และเกิดริ้วรอย
• พฤติกรรมการใช้ชีวิต: การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวร่วงโรยเร็วขึ้น
• แรงโน้มถ่วงของโลก: เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง และลำคอ

ยกกระชับหน้า มีกี่แบบ? ไขข้อสงสัย ก่อนตัดสินใจ

ยุคนี้ใครๆ ก็อยากหน้าเด็ก! แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวพรรณก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ทำให้หลายคนมองหาวิธียกกระชับหน้า เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ แต่รู้หรือไม่ว่า การยกกระชับหน้ามีหลากหลายวิธี? dr.mo clinic คลินิกเสริมความงามเชียงใหม่ ขอพาไปเจาะลึกทุกวิธี พร้อมไขข้อสงสัย ช่วยคุณเลือกวิธีที่ใช่ แก้ปัญหาได้ตรงจุด

---

1.ยกกระชับหน้า ไม่ต้องผ่าตัด ก็หน้าเด็กได้!

ใครว่าอยากหน้าเด็ก ต้องพึ่งมีดหมอเสมอไป? ปัจจุบันเทคโนโลยีความงามก้าวหน้าไปมาก มีนวัตกรรมยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว โดยไม่ต้องพักฟื้น dr.mo clinic คลินิกเสริมความงามเชียงใหม่ ขอพาไปเจาะลึกทุกเทรนด์ ทุกเทคโนโลยี ช่วยคุณเลือกวิธีที่ใช่ แก้ปัญหาได้ตรงจุด

ยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด (หัตถการ) คืออะไร?

การยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด หรือ หัตถการ เป็นการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอย โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ไม่มีแผลเป็น ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาในการทำไม่นาน และเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัด ต้องการความรวดเร็ว ปลอดภัย และไม่ต้องการพักฟื้น

1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด

1.1.คลื่นพลังงาน

• Ultherapy (อัลเทอร่า)
  

  • หลักการทำงาน: ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU) โฟกัสพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
  • ผลลัพธ์: ยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • ข้อดี: เห็นผลลัพธ์ชัดเจนในวัยที่อายุต่ำกว่า 40 ปี ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
  • ข้อเสีย: อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับวัยที่อายุมากกว่า 40 ปี ราคาค่อนข้างสูง อาจรู้สึกเจ็บค่อนข้างเยอะขณะทำ อาจจะต้องทายาชา หรือฉีดยาชาก่อนทำ

• Thermage (เทอร์มาจ)
  

  • หลักการทำงาน: ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • ผลลัพธ์: ยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า
  • ข้อดี: เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว เจ็บเล็กน้อยขณะทำ
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง อาจไม่ตอบโจทย์ในวัยที่อายุมากกว่า 40 ปี ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า Ultherapy ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี

• HIFU (ไฮฟู)
  

  • หลักการทำงาน: ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง เช่นเดียวกับ Ultherapy แต่มีความเข้มข้นของพลังงานน้อยกว่า
  • ผลลัพธ์: ยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย
  • ข้อดี: ราคาประหยัดกว่า Ultherapy
  • ข้อเสีย: ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่า Ultherapy

• Laser (เลเซอร์)
  

  • หลักการทำงาน: ใช้แสงเลเซอร์ ชนิดต่างๆ เช่น Nd:YAG, Fractional CO2 กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • ผลลัพธ์: ยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย ปรับสีผิว
  • ข้อดี: มีหลายชนิด เลือกใช้ได้ตามปัญหาผิว
  • ข้อเสีย: อาจต้องทำหลายครั้ง

1.2. การฉีด

• ร้อยไหม
  

  • หลักการทำงาน: ใช้ไหมละลาย ประเภทต่างๆ เช่น ไหมก้างปลา ไหมละลาย ไหม PDO สอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • ผลลัพธ์: ยกกระชับผิว ปรับรูปหน้า
  • ข้อดี: เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
  • ข้อเสีย: มีโอกาสเขียวซ้ำได้เยอะ และใช้เวลาในการหายช้ำ 1 – 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ

• โบท็อกซ์
  

  • หลักการทำงาน: ฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เข้าไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยลดเลือนลง
  • ผลลัพธ์: ลดเลือนริ้วรอย
  • ข้อดี: เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว
  • ข้อเสีย: ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 4-6 เดือน

• ฟิลเลอร์
  

  • หลักการทำงาน: ฉีดสารเติมเต็ม เช่น กรดไฮยาลูโรนิก เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า
  • ผลลัพธ์: เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีความสามารถในการเพิ่มความชุ่มชื่น และความเต่งตึงให้กับผิว
  • ข้อดี: เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ อาจมีโอกาสเขียวช้ำ แต่เกิดขึ้นน้อยมาก ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นะ 1 – 2 ปี
  • ข้อเสีย: อาจไม่ได้รับผลลัพธ์ตามที่ต้องการ หากใช้ฟิลเลอร์คุณภาพต่ำ และแพทย์ผู้ฉีดไม่เชี่ยวชาญ

1.3. อื่นๆ

• การผลักวิตามิน
  

  • หลักการทำงาน: ใช้เครื่องมือผลักวิตามิน เช่น Ultrasound, Iontophoresis ผลักวิตามินเข้าสู่ชั้นผิว
  • ผลลัพธ์: บำรุงผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย
  • ข้อดี: ปลอดภัย ไม่เจ็บ
  • ข้อเสีย: ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าวิธีอื่นๆ

• การมาส์กหน้า
  

  • หลักการทำงาน: ใช้แผ่นมาส์ก หรือครีมมาส์ก ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิว
  • ผลลัพธ์: บำรุงผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • ข้อดี: ง่าย สะดวก
  • ข้อเสีย: ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน

---

2.ศัลยกรรมดึงหน้า: ทางลัดสู่ใบหน้าอ่อนเยาว์

แม้หัตถการจะช่วยยกกระชับใบหน้าได้ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก หรือต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน อยู่ได้นาน ศัลยกรรมดึงหน้า อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กว่า dr.mo clinic คลินิกเสริมความงามเชียงใหม่ ขอพาไปเจาะลึก ศัลยกรรมดึงหน้าแต่ละประเภท ข้อดี-ข้อเสีย และสิ่งที่ควรรู้

ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift Surgery) คืออะไร?

ศัลยกรรมดึงหน้า คือ การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า โดยการตัดผิวหนังส่วนเกินออก และเย็บเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ให้กลับมาตึงกระชับ ช่วยแก้ปัญหา ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ประเภทของศัลยกรรมดึงหน้า

• Facelift (เฟซลิฟท์)

• • • หลักการทำงาน: ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัด โดยซ่อนแผลไว้บริเวณไรผม และรอบใบหู ตัดผิวหนังส่วนเกินออก ยกกระชับกล้ามเนื้อ และเย็บเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ให้กลับมาตึงกระชับ
    • ผลลัพธ์: ยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า ให้ดูอ่อนเยาว์
    • ข้อดี: ผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้นาน 5-10 ปี
    • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ปัญหาสุขภาพที่เสี่ยงต่อการผ่าตัด และผู้ที่เป็นแผลเป็นง่าย ใช้เวลาในการพักฟื้นยาวนาน อาจไม่ได้ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหากระดูกหน้าทรุดตัวค่อนข้างเยอะ

• Mini Facelift (มินิเฟซลิฟท์)

• • • หลักการทำงาน: คล้ายกับ Facelift แต่เป็นการผ่าตัดดึงหน้าแบบแผลเล็ก โดยศัลยแพทย์จะซ่อนแผลไว้บริเวณไรผม และรอบใบหู
    • ผลลัพธ์: ยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย
    • ข้อดี: แผลเล็ก พักฟื้นน้อยกว่า Facelift ราคาประหยัดกว่า Facelift
    • ข้อเสีย: ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า Facelift ประมาณ 3-5 ปี

• Endoscopic Facelift (เอนโดสโคปิคเฟซลิฟท์)

• • หลักการทำงาน: ศัลยแพทย์จะสอดกล้องเอนโดสโคป เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อดึงยกกระชับกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อ
  • ผลลัพธ์: ยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย
  • ข้อดี: แผลเล็ก พักฟื้นน้อย
  • ข้อเสีย: ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า Facelift

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมดึงหน้า

• ปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา
• แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่รับประทาน
• งดวิตามิน อาหารเสริม และยาบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา แอสไพริน
• งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
• งดแต่งหน้า ในวันผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมดึงหน้า

• ประคบเย็น เพื่อลดบวม
• ทายา และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
• นอนหนุนหมอนสูง
• งดแต่งหน้า
• งดออกกำลังกายหนัก
• งดอบซาวน่า
• หลีกเลี่ยงแสงแดด
• รับประทานอาหารอ่อนๆ
• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ข้อดีของศัลยกรรมดึงหน้า

• ผลลัพธ์ชัดเจน
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
• ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด
• ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ข้อเสียของศัลยกรรมดึงหน้า

• มีแผลเป็น
• ต้องพักฟื้น
• ราคาค่อนข้างสูง
• มีความเสี่ยง เช่น การติดเชื้อ เลือดออก

การจะศัลยกรรมเน้นควรเลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และคลินิกที่ได้มาตรฐาน

การศัลยกรรมดึงหน้า ควรเลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ และคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

---

เลือกวิธียกกระชับหน้าแบบไหนดี? แก้ปัญหาตรงจุด ปลอดภัย ไร้กังวล

อยากหน้าเด็ก ใสกิ๊ง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง? ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย แก้ไขได้ด้วยวิธียกกระชับหน้า แต่ด้วยตัวเลือกมากมาย ทั้งหัตถการ ศัลยกรรม แบบไหนกันนะที่เหมาะกับคุณ? dr.mo clinic คลินิกเสริมความงามเชียงใหม่ พร้อมเป็นที่ปรึกษา ช่วยคุณเลือกวิธียกกระชับหน้า ที่ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ และตรงใจ

ปัจจัยสำคัญ ในการเลือกวิธียกกระชับหน้า

• อายุ

• • • อายุยังน้อย (20-30 ปี): ผิวเริ่มมีริ้วรอยเล็กน้อย อาจเลือกใช้หัตถการ เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม
    • อายุมากขึ้น (40 ปีขึ้นไป): ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยชัดเจน อาจเลือกใช้หัตถการ เช่น Ultherapy, Thermage, HIFU, Botox, Filler, ร้อยไหม, Biostimulator  เช่น Sculptra หรือศัลยกรรม

• ระดับความหย่อนคล้อย

• • • หย่อนคล้อยเล็กน้อย: อาจเลือกใช้หัตถการ เช่น ร้อยไหม Ultherapy, Botox Lift, Biostimulator
    • หย่อนคล้อยปานกลาง: อาจเลือกใช้หัตถการ เช่น Thermage, HIFU หรือศัลยกรรมแบบแผลเล็ก (Mini Facelift), Filler Lift, Botox, ร้อยไหม, Biostimulator
    • หย่อนคล้อยมาก: ควรพิจารณาศัลยกรรม (Facelift)

• ปัญหาผิว

• • • ริ้วรอย: โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เลเซอร์
    • ร่องลึก: ฟิลเลอร์
    • รูขุมขนกว้าง: เลเซอร์, Skin Booster

• งบประมาณ

• • • งบประมาณน้อย: อาจเลือกใช้หัตถการ เช่น ร้อยไหม โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์
    • งบประมาณมาก: อาจเลือกใช้หัตถการ เช่น Ultherapy, Thermage หรือศัลยกรรม

• ความต้องการ

• • ต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว: โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม
  • ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: Laser, Biostimulator
  • ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน: ศัลยกรรม
  • ไม่ต้องการพักฟื้น: หัตถการ

ตารางเปรียบเทียบ วิธียกกระชับหน้า

วิธีการ	หลักการทำงาน	ผลลัพธ์	ข้อดี	ข้อเสีย	ระยะเวลาพักฟื้น	ราคา
หัตถการ
Ultherapy	คลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU)	ยกกระชับ ลดริ้วรอย	ผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้นานในวัยที่ต่ำกว่า 40 ปี	ราคาสูง มีความเจ็บค่อนข้างเยอะ ไม่ตอบโจทย์วัยที่มากกว่า 40 ปี	ไม่ต้องพักฟื้น	สูง
Thermage	คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF)	ยกกระชับ ลดริ้วรอย	ไม่เจ็บ เห็นผลลัพธ์เร็ว	ราคาสูง ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า Ultherapy ไม่ตอบโจทย์วัยที่มากกว่า 40 ปี	ไม่ต้องพักฟื้น	สูง
HIFU	คลื่นเสียงความถี่สูง	ยกกระชับ ลดริ้วรอย	ราคาประหยัด	ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่า Ultherapy	ไม่ต้องพักฟื้น	ปานกลาง
เลเซอร์	แสงเลเซอร์	ยกกระชับ ลดริ้วรอย ปรับสีผิว	มีหลายชนิด เลือกใช้ได้ตามปัญหา	อาจต้องทำหลายครั้ง	ไม่ต้องพักฟื้น	ปานกลาง
ร้อยไหม	ไหมละลาย	ยกกระชับ ปรับรูปหน้า	เห็นผลลัพธ์ทันที	ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน มีโอกาสเกิดรอยเขียวช้ำเยอะ	ไม่ต้องพักฟื้น	ปานกลาง
โบท็อกซ์	ฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน	ลดเลือนริ้วรอย	เห็นผลลัพธ์เร็ว	ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน	ไม่ต้องพักฟื้น	ต่ำ
ฟิลเลอร์	ฉีดสารเติมเต็ม	เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า	เห็นผลลัพธ์ทันที	อาจไม่ได้รับผลลัพธ์ตามที่ต้องการ หากใช้ฟิลเลอร์คุณภาพต่ำ และแพทย์ผู้ฉีดไม่เชี่ยวชาญ	ไม่ต้องพักฟื้น	ต่ำ
ศัลยกรรม
Facelift	ผ่าตัดดึงหน้า	ยกกระชับ ลดริ้วรอย	ผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้นาน	มีแผลเป็น ต้องพักฟื้น	7-14 วัน	สูง
Mini Facelift	ผ่าตัดดึงหน้าแบบแผลเล็ก	ยกกระชับ ลดริ้วรอย	แผลเล็ก พักฟื้นน้อย	ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่า Facelift	5-7 วัน	ปานกลาง

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเลือกวิธียกกระชับหน้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัญหา สภาพผิว และความต้องการ

dr.mo clinic คลินิกเสริมความงามเชียงใหม่

dr.mo clinic ดำเนินงานโดย แพทย์หญิงชัญญาภัค ดวงใจ (หมอโม) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 23 ปี พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลปัญหาผิวพรรณของคุณอย่างใกล้ชิด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัย และความพึงพอใจสูงสุด

ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

• Facebook: http://m.me/DoctorMoClinic
• Line: https://lin.ee/iPZJnuM หรือ @doctormo (มี @ ด้วย)
• โทร: 053-244208 , 082-8890692
• เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00 – 20:00 น.
• ที่ตั้ง: DR.MO CLINIC ตั้งอยู่โครงการ Star Avenue 1 (ใกล้กับโรงเรียนมงฟอร์ตมัธยม) Location: https://g.co/kgs/MRDzT5

---

FAQ

1. ยกกระชับหน้าแบบไหน เห็นผลลัพธ์เร็วที่สุด?

• หัตถการแบบฉีด เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
• หัตถการแบบใช้คลื่นพลังงาน เช่น Ultherapy, Thermage จะเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

2. ยกกระชับหน้าแบบไหน อยู่ได้นานที่สุด?

• ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) อยู่ได้นานที่สุด 5-10 ปี
• หัตถการ เช่น Ultherapy อยู่ได้นาน 1-2 ปี
• หัตถการ เช่น Thermage, ร้อยไหม อยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี
• หัตถการ เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

3. ยกกระชับหน้าแบบไหน เจ็บที่สุด?

• ศัลยกรรมดึงหน้า จะมีความเจ็บ ระหว่างผ่าตัด และหลังผ่าตัด
• หัตถการ เช่น Ultherapy อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ขณะทำ
• หัตถการ เช่น Thermage, HIFU, ร้อยไหม โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย เท่านั้น

4. ยกกระชับหน้า ราคาเท่าไหร่?

• ราคาขึ้นอยู่กับ วิธีการ ชนิดของเครื่องมือ และวัสดุที่ใช้
• ศัลยกรรมดึงหน้า ราคาสูงที่สุด
• หัตถการ เช่น Ultherapy, Thermage ราคาสูง
• หัตถการ เช่น HIFU, ร้อยไหม โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ราคาปานกลาง – ต่ำ

5. ยกกระชับหน้า ที่ไหนดี?

• ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้เครื่องมือ วัสดุ ที่ได้มาตรฐาน
• dr.mo clinic คลินิกเสริมความงามเชียงใหม่ ดำเนินงานโดย แพทย์หญิงชัญญาภัค ดวงใจ (หมอโม) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 23 ปี พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลปัญหาผิวพรรณของคุณอย่างใกล้ชิด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัย และความพึงพอใจสูงสุด

6. ยกกระชับหน้า มีข้อเสียอย่างไร?

• หัตถการ: ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน อาจต้องทำซ้ำ
• ศัลยกรรม: มีแผลเป็น ต้องพักฟื้น ราคาสูง

7. หลังยกกระชับหน้า ดูแลตัวเองอย่างไร?

• หัตถการ: ทาครีมกันแดด บำรุงผิว ตามปกติ
• ศัลยกรรม: ประคบเย็น ทายา รับประทานยา นอนหนุนหมอนสูง งดแต่งหน้า งดออกกำลังกายหนัก งดอบซาวน่า หลีกเลี่ยงแสงแดด รับประทานอาหารอ่อนๆ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

8. ยกกระชับหน้า เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ให้ดูอ่อนเยาว์
• ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิว เช่น ร่องลึก รูขุมขนกว้าง

9. ยกกระชับหน้า อันตรายไหม?

• หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้เครื่องมือ วัสดุ ที่ได้มาตรฐาน ก็มีความปลอดภัยสูง
• อย่างไรก็ตาม ทุกวิธีการ ย่อมมีความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนตัดสินใจ

10. ยกกระชับหน้า ต้องทำบ่อยแค่ไหน?

• ขึ้นอยู่กับวิธีการ และผลลัพธ์ที่ต้องการ
• ศัลยกรรมดึงหน้า ทำเพียงครั้งเดียว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-10 ปี
• หัตถการ เช่น Ultherapy ทำซ้ำทุก 1-2 ปี
• หัตถการ เช่น Thermage, ร้อยไหม ทำซ้ำทุก 6 เดือน – 1 ปี
• หัตถการ เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ทำซ้ำทุก 4-6 เดือน

 

• Facebook
• Twitter
• Line